11.8.55

เรียนภาษาอังกฤษเพื่อเรียนต่อต่างประเทศ

 เป้าหมายของผู้ที่เฝ้าฝึกฝน ท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ จ้างครูมาสอนภาษาอังกฤษที่บ้าน ก็คือการมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีเยี่ยม คำถามคือเราจะมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีเยี่ยมเพื่ออะไร หลายๆเหตุผล มีหนึ่งเหตุผลครับ คือ การไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ วันนี้ผมขอนำเสนอบทความ ทำอย่างไร? ให้ได้รับทุนไปต่างประเทศ เชิญอ่านให้สำราญอุราเลยครับ

ทำอย่างไร? ให้ได้รับทุนไปต่างประเทศ
กองการต่างประเทศ
สานักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม


แหล่งทุนสาหรับการศึกษา ฝึกอบรม ดูงาน ณ ต่างประเทศของข้าราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมประกอบด้วยแหล่งทุนจากหลายแหล่ง เช่น ทุนภายใต้โครงการซึ่งเป็นทุน ตามข้อตกลงโครงการความร่วมมือฯ และทุนภายนอกโครงการ ซึ่งประกอบด้วยทุนหลักสูตรประจาปี ทุนเชิญ ทุนตามความเห็นชอบในหลักการ/ตัวบุคคล ฯลฯ ของสานักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.) และทุนประเภทต่างๆจากองค์การ/หน่วยงานจากต่างประเทศ ตลอดจน สถานทูตต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่กระทรวงยุติธรรมได้รับทุนโดยผ่านสพร.
ในฐานะที่กองการต่างประเทศ โดยกลุ่มงานทุนและฝึกอบรมต่างประเทศ สานักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมมีหน้าที่ในการพิจารณา และจัดสรรทุนการศึกษา ฝึกอบรม ดูงาน ณ ต่างประเทศของข้าราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม จึงได้จัดทาโครงการรับสมัครข้าราชการ เข้ารับการทดสอบวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษสาหรับการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการเพื่อเสนอชื่อ สมัครรับทุนการศึกษา ฝึกอบรมและดูงาน ณ ต่างประเทศ โดยเมื่อมีทุนต่างๆแจ้งเข้ามา กองการต่างประเทศจะพิจารณาผู้เหมาะสมจากบัญชีรายชื่อผู้ที่ผ่านเกณฑ์เหล่านี้ เพื่อเสนอชื่อ เป็นผู้สมัครรับทุนของกระทรวงยุติธรรม โดยพิจารณาจากประวัติและคุณสมบัติของผู้สมัครรับทุน ที่ตรงตามเงื่อนไขของหลักสูตรก่อนเป็นลาดับแรกโดยเรียงตามคะแนนที่ขึ้นไว้ในบัญชี ทั้งนี้ หากมีทุนที่ต้องการผู้สมัครรับทุนที่มีคุณสมบัติเฉพาะนอกเหนือจากที่มีอยู่ในบัญชีรายชื่อ กองการต่างประเทศจะมีหนังสือแจ้งเวียนหน่วยงานในสังกัดเพื่อให้พิจารณาเสนอชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เป็นกรณีไป ดังนั้นบุคลากรของกระทรวงยุติธรรมที่สนใจใฝ่รู้ภาษาอังกฤษ และทราบลักษณะข้อสอบของสพร. ย่อมได้เปรียบในการเตรียมตัวเข้ารับการทดสอบฯ เพื่อ “ชิงทุน” ไปต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ต้องผ่าน “ด่านข้อสอบของสพร.” ก่อน จึงจะมีโอกาสสูงในการได้รับทุนนั้นๆ
สาหรับลักษณะข้อสอบของสพร.นั้น จะมีทั้งระดับศึกษาต่อ (academic) สาหรับ ผู้สมัครรับทุนปริญญาเอก ปริญญาโท ศึกษา วิจัย สัมมนา วุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตร ระดับสูงกว่าปริญญาตรี (คะแนนผ่าน 70%)และระดับฝึกอบรมและดูงาน (practical)สาหรับผู้ที่สมัครรับทุน การฝึกอบรมซึ่งใกล้เคียงกับการศึกษา การฝึกอบรมที่เน้นด้านปฏิบัติ การดูงาน (คะแนนผ่าน 50-70%) ซึ่งข้อสอบทั้งสองระดับจะประกอบด้วย 2 ส่วนใหญ่ๆ คือข้อสอบการอ่านและข้อสอบการฟัง โดยในส่วนการอ่านของทั้งสองระดับจะประกอบด้วยข้อสอบประเภท cloze test ซึ่งเป็นบทความ ยาวประมาณ 1 หน้า ซึ่งในบทความจะเว้นช่องว่างไว้ ทั้งนี้ผู้สอบต้องเลือกคาตอบจากตัวเลือก
ที่กาหนดให้ หรือหากไม่มีตัวเลือกมาให้ ก็ต้องเขียนคาตอบที่ถูกต้องเพียงคาตอบเดียวลงในช่องว่าง แต่ละแห่ง
นอกจากนี้ยังมีข้อสอบที่เป็นเรื่องหรือบทความ ซึ่งมีทั้งที่ให้ผู้สอบอ่านแล้วตอบว่า ข้อความที่โจทย์ให้มานั้น ถูกต้อง ไม่ถูกต้อง หรือไม่ปรากฏในเนื้อเรื่อง (correct, incorrect หรือ no information given) และข้อสอบที่ให้ผู้สอบอ่าน และเลือกคาตอบที่ถูกต้องจากตัวเลือก (multiple choice) ส่วนความแตกต่างของข้อสอบการอ่านทั้งสองระดับก็คือข้อสอบระดับศึกษาต่อจะมีระดับความยากสูงกว่า อีกทั้งยังมีความแตกต่างในรายละเอียด คือในข้อสอบระดับศึกษาต่อนั้น จะมีบางข้อ ที่ให้ผู้สอบอ่านคร่าวๆอย่างรวดเร็ว เพื่อค้นหาข้อมูลคาตอบ (scan) และที่มีตารางซึ่งแบ่งออก เป็นสองส่วน โดยส่วนที่หนึ่งบรรจุข้อความที่มีความเห็นคล้อยตาม 6 บท อีกส่วนบรรจุข้อความ เชิงคัดค้าน 7 บท ทั้งนี้ ผู้สอบต้องจับคู่ข้อความเชิงคัดค้านกับข้อความเชิงคล้อยตาม หรือจับคู่หัวข้อเรื่องเดียวกันเข้าด้วยกัน
สาหรับข้อสอบการอ่านระดับฝึกอบรมและดูงาน จะให้ตารางแสดงรายการ รายละเอียดของสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจาวัน ผู้สอบจะต้องอ่านคร่าวๆเพื่อค้นหาคาตอบที่ต้องการตามคาถาม ทั้งนี้ ข้อสอบการอ่าน ระดับศึกษาต่อจะมีจานวน 70 ข้อ ส่วนระดับฝึกอบรมจะมี 75 ข้อ ซึ่งทั้ง 2 แบบจะใช้เวลาในการสอบเท่ากัน คือ 2 ชั่วโมง โดยทั้งคู่จะแบ่งออกเป็นการทดสอบความรู้ไวยากรณ์ 25 % และทดสอบทักษะการอ่าน 75%
เทคนิคในการเตรียมตัวสาหรับข้อสอบการอ่านนั้น ก่อนทาข้อสอบ ควรอ่านดูคร่าวๆว่าแต่ละส่วนมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร เพื่อจะได้ทราบว่าควรทาส่วนไหนก่อน โดยเริ่มทาจากข้อที่คิดว่า ทาได้ดีที่สุดก่อน สาหรับข้อที่ยากหรือไม่แน่ใจ ควรข้ามไปก่อน เพราะจะทาให้เสียเวลาในการทา ข้ออื่น ทั้งนี้ ควรใช้เวลาทาแต่ละส่วนไม่เกิน 15 นาที เพื่อจะได้มีเวลาทบทวนและทาข้อที่ยังไม่ได้ตอบ อย่างไรก็ตาม ควรอ่านคาสั่งและคาถามให้เข้าใจ และตอบคาถามให้ครบทุกข้อ เพราะไม่มี การหักคะแนนในกรณีที่ตอบผิด หากพบคาศัพท์ยากในเนื้อเรื่อง ก็ไม่ควรพยายามหาความหมาย เพราะในการทาข้อสอบ ไม่จาเป็นต้องรู้ความหมายของศัพท์ทุกๆคา
สาหรับข้อสอบการฟังนั้น จะให้ฟังบทสนทนา โดยเลือกคาตอบจากตัวเลือก ที่กาหนดให้ โดยจะมีจานวน 40 ข้อเท่ากันทั้งสองระดับ ซึ่งจะแบ่งออกได้เป็น 4 ส่วน ส่วนที่ 1 ทดสอบความเข้าใจภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจาวัน ส่วนที่ 2 และ 3 ทดสอบความเข้าใจการสนทนา ส่วนที่ 4 ทดสอบความเข้าใจการบรรยาย ในการเตรียมตัวทาข้อสอบการฟังนั้น หลักสาคัญอยู่ที่สมาธิ โดยควรจะตั้งใจฟังและจดส่วนที่คิดว่าสาคัญไว้ หากข้อไหนฟังไม่ทัน ให้ข้ามข้อนั้นและตั้งใจฟัง บทสนทนาข้อต่อไป นอกจากนี้ ก่อนหน้าที่จะได้ฟังบทสนทนาแต่ละข้อ จะมีเวลาให้พอสาหรับ การอ่านตัวเลือกในกระดาษคาถาม ดังนั้น ผู้สอบควรรีบอ่านตัวเลือกก่อน โดยอ่านแบบคร่าวๆพอให้
ทราบว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร เพราะจะทาให้สามารถรู้ได้ว่าควรจะตั้งใจฟังส่วนใดในบทสนทนานั้นๆเป็นพิเศษ
เมื่อทราบถึงลักษณะข้อสอบแล้ว ก็มาถึงการเตรียมตัวเพื่อสอบให้ได้คะแนนดีๆ โปรดอย่าลืมว่าคะแนนสอบจะนาไปตัดสินว่าใครจะได้รับการเสนอชื่อให้แหล่งทุนพิจารณา เป็นขั้นสุดท้ายด้วย เพราะฉะนั้น นอกจากจะต้องทาคะแนนให้ผ่านเกณฑ์แล้ว (เช่น ต้องได้อย่างน้อย 70% สาหรับทุนศึกษาต่อ) ยังจะต้องทาคะแนนให้ได้สูงกว่าคู่แข่งคนอื่นๆด้วย ทั้งนี้ การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษนั้นจะประสบผลสาเร็จได้ยาก หากปราศจากการฝึกฝน ดังที่หลายคนพูดว่า Practice makes perfect. ดังนั้น ผู้สอบควรจะฝึกฝนอยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความพร้อมและความมั่นใจในการสอบ โดยข้อสอบของสพร.นั้นจะคล้ายกับข้อสอบ IELTS ผู้สอบจึงสามารถใช้ข้อสอบ IELTS ในการฝึก เพื่อเตรียมตัวสอบได้
ขอแนะนาเพิ่มเติมว่า การฝึกทักษะการอ่านนั้น อาจทาได้โดยอ่านบทความ หรือข่าวภาษาอังกฤษอยู่เสมอ หากไม่ได้รับหนังสือพิมพ์ ก็สามารถเข้าเว็บไซต์ www.bangkokpost.com หรือwww.nationmultimedia.com ได้ นอกจากจะทาให้เห็นศัพท์หรือไวยากรณ์แบบต่างๆแล้ว ยังจะช่วยให้สามารถอ่านได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถเดาศัพท์ที่ไม่ทราบความหมายจากเนื้อหาแวดล้อมหรือบริบทได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สาหรับการฝึกทักษะด้านการฟังนั้น อาจจะทาได้ลาบากกว่าการอ่าน เพราะในวันหนึ่งๆ โอกาสที่เราจะได้ฟังภาษาอังกฤษนั้นมีน้อยเต็มที แต่ในยุคที่มีความก้าวหน้า ทางเทคโนโลยีเช่นนี้ ผู้สอบสามารถฝึกการฟังผ่านทางอินเตอร์เน็ต ได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต โดยอาจเข้าไปที่เว็บไซต์ www.bbc.co.uk/ หรือ www.cnn.com เพื่อฟังข่าวภาษาอังกฤษได้ และสาหรับผู้ที่มีเครื่องเล่น mp3 (เช่น iPod) ก็ยังสามารถ download ไฟล์เสียงลงเครื่องเล่น mp3 เพื่อฟังเวลาขับรถ หรือในเวลาว่างได้ โดยผู้เขียนขอแนะนาเว็บไซต์ที่สามารถ download ไฟล์ข่าว หรือสารคดีภาษาอังกฤษ ได้แก่ http://www.britishcouncil.org/learnenglish-podcasts.htm และ http://www.bbc.co.uk/podcasts/
กองการต่างประเทศหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ท่านได้ทราบถึงแหล่งทุน และวิธีการจัดสรรทุนของกระทรวงยุติธรรม ตลอดจน แนวทางในการทาข้อสอบของสพร.บ้าง ตามสมควร หากท่านมีข้อสงสัยหรือสนใจในประเด็นใด สามารถสอบถามข้อมูลต่างๆเพิ่มเติมได้ที่ กองการต่างประเทศ กลุ่มงานทุนและฝึกอบรมต่างประเทศ สานักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ชั้น 23 หรือ ทางโทรศัพท์หมายเลข 0 2502 8032, 0 2502 8323 เรายินดีตอบข้อซักถามของท่านทุกคาถาม ด้วยความเต็มใจ และยินดีอย่างยิ่ง หากคาตอบของเราจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาบุคลากร ของกระทรวงยุติธรรม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

Blog Archive

ป้ายกำกับ

การทําข้อสอบreading (1) เก่งภาษาอังกฤษในเวลาสั้นๆ (1) เกมภาษาอังกฤษสำหรับอนุบาล (1) ข้อสอบพวก TOEFL (2) ข้อสอบภาษาอังกฤษ (1) ครูพี่แนน (2) คล้องจอง (1) เคล็ดลับการทำข้อสอบreading (2) จำคำศัพท์ (17) เดาศัพท์ภาษาอังกฤษ (9) ติวภาษาอังกฤษตัวต่อตัว (14) ติวศัพท์ (20) ท่องศัพท์ (14) เทคนิคการสอนคำศัพท์ (6) เทคนิคใช้that (1) แนะนำหนังสือภาษาอังกฤษ (6) บทสนทนา (2) บทสนาทนาภาษาอังกฤษ (4) ฟังภาษาอังกฤษ (3) ภาษาอังกฤษ (21) ภาษาอังกฤษกับกฎหมาย (1) ภาษาอังกฤษทางบัญชี (1) รวบรวม25กฎของอาจารย์บุญชัย (1) เร่งสปีด (1) เรียนภาษาอังกฤษ (28) เรียนภาษาอังกฤษราคาถูก (8) สอนศัพท์ (11) หลักการใช้ that (1) อาจารย์สมศรี (1) อ่านภาษาอังกฤษ (1) AX 22 (1) cd เรียนภาษาอังกฤษ (1) CDเรียนภาษาอังกฤษ (1) closing sections (1) Cloze Test (1) conversation (1) dictionary (1) fast-english (1) General knowledge (1) GMAT (1) inferior (1) Language in Daily Life (1) main idea (2) parts of speech (1) prefix and suffix (1) reading comprehension (2) reading skill (2) TOEFL (1) TOPIC NOUN (1) vocabulary (2) vocabulary game (2) word formation (2)
 
Copyright © 2011 เรียนภาษาอังกฤษ | High CTR Blogspot Themes designed by Ali Munandar | Powered by Blogger.Com.
My Zimbio
Top Stories