แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ reading skill แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ reading skill แสดงบทความทั้งหมด

29.1.56

Main idea คืออะไร



Main idea  คือใจความหลักของเรื่อง เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของเรื่องที่ผู้เขียนต้องการบอกให้ผู้อ่านทราบว่า  ผู้เขียนได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องอะไร ซึ่งเป็นส่วนที่ครอบคลุมเรื่องนั้นๆ 
 Main Idea มี 2 ชนิด
  1. State main idea  คือ หลักใหญ่ใจความที่สำคัญที่สุดของเรื่อง ซึ่งผู้เขียนบอกมาตรงๆ สามารถครอบคลุมเนื้อหาของเรื่องได้ทั้งหมด จะต้องตั้ง main idea ไว้ในการเขียน และบรรยายหรือธิบายโดยยึด main idea เป็นหลัก ส่วนที่ขยายหรือบรรยายให้รายละเอียดต่อจาก main idea คือ supporting idea โดยปกติ ในเนื้อความหนึ่งๆ เรามักจะพบ state main idea ได้ในตอนต้น ตอนกลาง หรือตอนท้ายของย่อหน้า เช่น

Bicycles are very popular today in many countries. Many people use bicycles for exercise. But exercise is only one of the reasons why bicycle are popular. Another reason is money. Bicycles are not expensive to buy. They do not need gas to make them go. They also are easy and cheap to fix. In cities, many people like bicycles better than cars. With a bicycle, they never have to wait in traffic. They also do not have to find a place to park. And finally, bicycles do not cause any pollution!

   Main idea :  Bicycles are popular today for many people..


2. Implied main idea หมายถึง การกล่าวถึง main idea ในลักษณะที่ผู้เขียนไม่ได้เอ่ยมาตรงๆ ทันที เพียงแต่แสดงนัยให้เห็นเท่านั้น ผู้อ่านต้องวินิจฉัยเอาเองเพื่อให้เห็นได้ชัด
My name is Maria, and I live at 645 B Street. I like B Street. It is a nice street.
      Main idea :  Maria is pleased to live on B Street.

ตำแหน่งของ Main Idea โดยส่วนใหญ่แล้ว Main Idea จะปรากฏใน 3 ลักษณะ  ดังนี้

Main Idea in the Beginning  (อยู่ตรงต้นเรื่อง)
Main Idea in the Middle  (อยู่ตรงกลางเรื่อง)
Main Idea at the End   (อยู่ตรงท้ายเรื่อง)
READ MORE - Main idea คืออะไร

5.12.55

ฝึกreadingอย่างไรดี

    ณ พ.ศ. นี้ ความรู้ ข้อมูลข่าวสารเพื่อนบ้านในอาเซียนดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ต้องรู้ ต้องเสาะแสวงหา และสิ่งที่จำเป็นต้องรู้มากกว่าก็คงเป็นภาษาอังกฤษนี้แหละครับ เพราะถ้าความรู้ภาษาอังกฤษอ่อน โดยเฉพาะทักษะ reading หากขาดการฝึกฝนให้ซ่ำซองแล้วไซร้ การรับรู้ข้อมูลข่าวสารย่อมยากลำบาก เพราะข้อมูลต่างๆล้วนเป็นภาษาอังกฤษเสียเป็นส่วนใหญ่

  ความจริงแล้วทักษะภาษาอังกฤษที่จำเป็นก็มีทั้ง reading ,speaking,listeningและwriting แต่ผมยกreading เป็นทักษะแรกที่ต้องฝึกให้เก่ง เพราะนอกเหนือการฝึกเพื่อให้รับรู้ข่าวสารจากการอ่านแล้ว การทำข้อสอบGAT พาธ ภาษาอังกฤษ จะว่าจริงๆแล้วข้อสอบก็ทดสอบพาธreadingเป็นหลัก และหากใครทำข้อสอบภาษาอังกฤษได้คะแนนที่โดดเด่นเกินหน้าเกินตาเพื่อนๆแล้วละก็โอกาสที่จะได้เข้าเรียนในคณะที่ตนเองใฝ่ฝันย่อมเป็นไปได้สูง

 วันนี้ผมได้เข้าไปอ่าน บล็อก http://intereladsd.blogspot.com  เจ้าของบล็อกได้แนะนำวิธีการฝึก reading อย่างไรให้ได้ผล ซึ่งก็คือการอ่านภาษาอังกฤษทุกวัน สม่ำเสมอ  จนกลายเป็นกิจวัตร โดยเลือกอ่านในเนื้อหาที่ชอบ ไม่ยาก และไม่ยาวเกินไป เรื่องเลือกบทความที่เราชอบ และไม่ยาก ไม่ยาวผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยครับ เนื่องจากที่ผ่านมาผมสังเกตุผมเอง เวลาที่ผมทำข้อสอบ reading ถ้าบังเอิญเจอบทความที่ชอบ ผมจะมีสมาธิ ในการทำข้อสอบและคะแนนมักจะออกมาดี ทั้งๆที่ผมเองไม่ได้ชอบภาษาอังกฤษและไม่ได้เตรียมตัวสอบแต่อย่างไร

  กลยุทธไม่ได้มีไว้ใช้ในเชิงสงคราหรือเชิงธุระกิจเท่านั้น แต่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาภาษาอังกฤษได้เช่นกันครับ เจ้าของบล็อกดังกล่าวขั้นต้นได้แนะนำกลยุทธในการฝึก reading ไว้น่าสนใจมากเลยครับ

  เจ้าของบล็อกดังกล่าวเน้นย้ำด้วยว่า อุปกรณ์ที่แนะนำหากนำมาใช้ฝึก จะสามารถพัฒนาภาษาอังกฤษได้โดยไม่น่าเบื่อ คือ ได้ผลและสนุกนั้นเองครับ 
 
กลยุทธแรกคือ http://www.gcflearnfree.org/reading/play/1

เมื่อเข้าไปแล้วจะมีภาพอยู่ทั้งหมด 42 ภาพ, 1 ภาพ คือ 1 กิจกรรม ให้เลือกฝึกกิจกรรม Reading ตามใจชอบ
 
กลยุทธที่ 2 http://www.gcflearnfree.org/reading

เมื่อเข้าไปแล้ว มองไปด้านขวามือ จะเห็นคอลัมน์ขวามือใต้ The Activities ซึ่งจะมีทั้งหมด  9 กิจกรรม ให้เลือก

เมื่อเข้าไปแล้ว….

1.อ่านคำอธิบาย และคลิก Start

2.ใต้ Choose a category ให้เลือก 1 กิจกรรมที่จะเล่น (มีทั้งหมด 42 กิจกรรม)

-ถ้ามี text ท่านจะอ่านเลย, หรือจะคลิกที่ไอคอนรูปลำโพงเพื่อฟังเสียงอ่านก็ได้ (คลิกซ้ำเพื่อฟังซ้ำ)

-ถ้าจะอ่านหรือฟังหน้าถัดไป ให้คลิกรูปสามเหลี่ยม ที่ขอบขวาของหน้า

-ถ้าจะอ่านหรือฟังหน้าก่อนหน้า ให้คลิกรูปสามเหลี่ยม ที่ขอบซ้ายของหน้า


เจ้าของบล็อกแนะนำให้ใช้เวลากับเวบดังกล่าวมากสักหน่อย ผมเองก็ตั้งใจจะฝึก reading เหมือนกัน ผมตั้งใจว่าจะใช้เวลากับเวบดังกล่าวสัก 45-90 นาที แล้วลองมาดูกันครับว่าผมจะเก่ง reading มากขึ้นไหม





  
 

READ MORE - ฝึกreadingอย่างไรดี

บทความที่ได้รับความนิยม

ป้ายกำกับ

การทําข้อสอบreading (1) เก่งภาษาอังกฤษในเวลาสั้นๆ (1) เกมภาษาอังกฤษสำหรับอนุบาล (1) ข้อสอบพวก TOEFL (2) ข้อสอบภาษาอังกฤษ (1) ครูพี่แนน (2) คล้องจอง (1) เคล็ดลับการทำข้อสอบreading (2) จำคำศัพท์ (17) เดาศัพท์ภาษาอังกฤษ (9) ติวภาษาอังกฤษตัวต่อตัว (14) ติวศัพท์ (20) ท่องศัพท์ (14) เทคนิคการสอนคำศัพท์ (6) เทคนิคใช้that (1) แนะนำหนังสือภาษาอังกฤษ (6) บทสนทนา (2) บทสนาทนาภาษาอังกฤษ (4) ฟังภาษาอังกฤษ (3) ภาษาอังกฤษ (21) ภาษาอังกฤษกับกฎหมาย (1) ภาษาอังกฤษทางบัญชี (1) รวบรวม25กฎของอาจารย์บุญชัย (1) เร่งสปีด (1) เรียนภาษาอังกฤษ (28) เรียนภาษาอังกฤษราคาถูก (8) สอนศัพท์ (11) หลักการใช้ that (1) อาจารย์สมศรี (1) อ่านภาษาอังกฤษ (1) AX 22 (1) cd เรียนภาษาอังกฤษ (1) CDเรียนภาษาอังกฤษ (1) closing sections (1) Cloze Test (1) conversation (1) dictionary (1) fast-english (1) General knowledge (1) GMAT (1) inferior (1) Language in Daily Life (1) main idea (2) parts of speech (1) prefix and suffix (1) reading comprehension (2) reading skill (2) TOEFL (1) TOPIC NOUN (1) vocabulary (2) vocabulary game (2) word formation (2)
 
Copyright © 2011 เรียนภาษาอังกฤษ | High CTR Blogspot Themes designed by Ali Munandar | Powered by Blogger.Com.
My Zimbio
Top Stories