10.8.55

แนวทางพัฒนาภาษาอังกฤษ

   การที่เราจะเก่งภาษาอังกฤษจนถึงขั้น อ่านออก เขียนได้  พูดง่ายๆว่าสามารถสื่อสารได้นั้นเอง  แน่นอนครับว่าการจะทำอย่างนั้นต้อง ฝึกฝนอย่างจริงจัง ต้องฟังภาษาอังกฤษ ต้องพูดภาษาอังกฤษทุกวัน และที่สำคัญมากๆคือต้องท่องศัพท์ภาษาอังกฤษและใช้ดิกภาษาอังกฤษ-อังกฤษ และดิก อังกฤษ - ไทย ได้อย่างชำนาญการเลยทีเดียวครับ

  เริ่มแรกที่ผมตั้งใจจะเรียนภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง เพื่อหวังผลในการสอบหรือการสื่อสาร ผมมีคำถามที่ถามตัวเองอยู่ 2 คำถามครับ 1.ผมจะหาหนังสือภาษาอังกฤษเล่มไหนมาอ่านดี 2.ผมควรจ้างติวเตอร์มาสอนภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัวไหม

  ผมขอตอบในคำถามข้อที่สองก่อนนะครับ ว่าผมควรหาติวเตอร์มาสอนภาษาอังกฤษผมแบบตัวต่อตัวหรือไม่ ในความเห็นผม ผมเห็นว่าจำเป็นต้องมีครูครับ เพราะถ้ามีครูคอยสอนภาษาอังกฤษให้เรา เราสงสัยก็ถามได้จะทำให้เราพัฒนาภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็วมากครับ การสอนภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัว เหมาะกับผู้ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษกรณีเร่งด่วนและต้องมีเงินหนาพอสมควรครับ เพราะจากที่ผมค้นหาข้อมูล พบว่าอัตราค่าสอนแบบการสอนตัวต่อตัวจะอยู่ที่ประมาณ 250-300 บาทต่อชั่วโมงครับ

 ผมเองได้รวบรวมข้อดีของการเรียนภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัวไว้ข้างล่างนี้นะครับ เผื่อมีผู้สนใจจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาค้นข้อมูลอีก ยังก็อ่านให้ครบ หมดทุกตอนก่อนค่อยตัดสินใจนะครับ

ข้อดีของการเรียนพิเศษตัวต่อตัว

การเรียนพิเศษแบบตัว ต่อตัวมีความสำคัญมากในปัจจุบัน เพราะนักเรียนแต่ละคนมีพื้นฐานการเรียนรู้ที่ไม่เหมือนกันบางคนรับรู้ได้ เร็วบางคนรับรู้ได้ช้า เมื่อเรียนรวมกันในห้องเรียนใหญ่จึงมีผลทำให้การเรียนการสอนไม่ประสบผล สำเร็จ  และปัจจุบันอัตราการแข่งขันในการสอบเข้าโรงเรียนดังๆ มหาวิทยาลัยชั้นนำ และสอบเข้าคณะยอดนิยมก็มีการแข่งขันที่สูงมากขึ้น การเรียนในห้องเรียนเพียงอย่างเดียวดูเหมือนจะไม่เพียงพอต่อการแข่งขันกับ ผู้อื่น เพราะการเรียนในห้องเรียน น้องๆจะได้รับเพียงพื้นฐานที่นักเรียนแต่ละคนจะได้รับความรู้ที่เท่าๆกัน แต่หากต้องการนำความรู้ไปใช้ในการสอบแข่งขัน ก็จำเป็นจะต้องเรียนเพิ่มเติมหรือเรียนพิเศษ การเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวโดยมีติวเตอร์ไป สอนถึงที่ ไม่ต้องเสีเวลาเดินทาง ให้บรรยากาศการเรียนที่เป็นกันเอง ไม่กดดัน การเรียนแบบตัวต่อตัว มีข้อดีอีกหลายๆ ด้าน เพราะน้องๆ บางคนที่อาจจะเรียนตามไม่ทัน หรือจดตามที่อาจารย์สอนไม่ทัน แล้วก็ไม่กล้าที่จะยกมือถามเพราะอายเพื่อนๆร่วมชั้นเรียน การเรียนแบบตัวต่อตัวสามารถลดปัญหาเหล่านี้ได้ เมื่อน้องๆ สามารถที่จะซักถามติวเตอร์ได้ทุกคำถามที่น้องๆเรียนแล้ว ไม่เข้าใจ ติวเตอร์สามารถอธิบายน้องๆให้เข้าใจเพิ่มเติมได้อย่างละเอียดมากกว่าการ เรียนแบบห้องใหญ่ หากน้องๆ ที่ต้องการเรียนในระดับที่สูงขึ้นก็สามารถที่จะทำได้เช่นกัน


  ข้อดีของการเรียนตัวต่อตัวหรือเป็นกลุ่มย่อย คือ เมื่อน้องๆเกิดข้อสงสัยในบทเรียน น้องๆ สามารถซักถามได้ทันที ทำให้เรียนด้วยความเข้าใจ เพราะสาเหตุสำคัญสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้องๆทำข้อสอบไม่ได้นั้น เป็นเพราะไม่เข้าใจในบทเรียนอย่างถ่องแท้ เนื่องจากการเรียนในห้องเรียนนั้น เมื่อน้องๆเกิดข้อสงสัย บางครั้งจะไม่กล้าซักถามคุณครู เพราะอายคุณครูและเพื่อนๆ จึงทำให้ไม่เข้าใจในเนื้อหาอย่างแท้จริง การสอนตัวต่อตัวหรือเป็นกลุ่มย่อยจึงช่วยแก้ปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี  อีกทั้งการสอนโดยรุ่นพี่นั้นจะทำให้น้องๆ กล้าซักถามมากขึ้น เพราะมีความเป็นกันเองมากกว่าการเรียนในห้องเรียน


การเรียนพิเศษ ตัวต่อตัว เหมาะกับใคร

การเรียนพิเศษตัวต่อตัวมีประโยชน์ในหลายๆด้าน แต่ใครล่ะที่เหมาะสำหรับการเรียนแบบนี้??
1.นักเรียนที่เรียนในห้องไม่เข้าใจ หรือตามที่ครูสอนไม่ทัน
น้อง ๆ ที่เรียนหนังสือในห้องแล้วมีปัญหาคือไม่สามารถเรียนตามทันเพื่อน หรือไม่เข้าใจในบทเรียน
ที่กำลังเรียน
2.อายในการสอบถามเกี่ยวกับบทเรียนกับเพื่อน หรือครู
ในบางครั้งถ้าน้อง ๆ จะถามคำถามเกี่ยวกับบทเรียนกับเพื่อน ๆ อาจเกิดความอายจากการถามเพื่อนหรือครู
3.ต้องการศึกษาเพิ่มเติมจากบทเรียน
บทเรียนที่เรียนนั้นมีเนื้อหาที่ละเอียดประมาณหนึ่งเท่านั้น น้อง ๆ อาจต้องการทราบว่าสาเหตุเกิดมาจากอะไร
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
4.ทบทวนบทเรียน
การเรียนที่ประสบความสำเร็จนั้น ต้องเกิดจากการทบทวนบทเรียนอยู่เสมอ การเรียนในห้องให้ความรู้
ความเข้าใจ แต่ถ้าต้องการเข้าใจในบทเรียนเราต้องทบทวนในเนื้อหาการเรียนอยู่เสมอ
5.ปรึกษาการบ้าน
ในโรงเรียนจะมีการบ้านที่ให้กลับมาทำเสมอๆ แต่ในบางครั้งนักเรียนก็ไม่สามารถที่จะตอบคำถามต่างๆ
เหล่านั้นได้ จนทำให้เกิดอาการไม่อยากเรียน หรือทำการบ้านนั้นๆ ต่อ
6.เตรียมตัวสอบ
เวลาที่ใกล้สอบ เนื่องจากเนื้อหาแต่ละวิชามีเป็นจำนวนมาก และหลายวิชา ทำให้การทบทวนเพื่อเตรียมตัวสอบ
ใช้เวลามากกว่าปกติมาก แต่ถ้าได้ผู้สอนที่มีประสบการณ์มาช่วยในการเตรียมตัวสอบจะทำให้ประหยัดเวลาได้มากทีเดียว
7.สอบเรียนต่อ
ในปัจจุบันการแข่งขันเพื่อเรียนต่อในชั้นต่างๆ มีการแข่งขันที่สูง ไม่ว่าจะเป็นระดับมหาวิทยาลัย มัธยมปลาย มัธยมต้น
ประถม หรือแม้กระทั่งอนุบาล การเตรียมตัวที่ดีย่อมทำให้มีโอกาสในการสอบที่ดีกว่า
ถ้าคุณเป็นคนในกลุ่มนี้ การเรียนพิเศษตัวต่อตัวก็เป็นตัวเลือกในการเรียนพิเศษที่ดีอีกทางหนึ่งเช่นกัน


เรียนพิเศษตัวต่อตัว หรือกลุ่มเล็ก ดีอย่างไร

การเรียนพิเศษตัวต่อตัว หรือการเรียนเป็นกลุ่มเล็กๆ ทำให้ผู้สอนสามารถสอนนักเรียนได้อย่างทั่วถึง
ทำให้นักเรียนสามารถถามในสิ่งที่สงสัย หรืออยากเข้าใจในเชิงลึก ซึ่งต่างจากการเรียนการสอนในห้องเรียน
เนื่องจากการเรียนในห้องเรียน เป็นการเรียนที่มีนักเรียนกลุ่มใหญ่ ทำให้อาจเกิดการดูแลนักเรียนที่ไม่ทั่วถึง
และในบางครั้งนักเรียนอาจไม่กล้าสอบถามเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองสงสัยในห้อง ซึ่งการเรียนตัวต่อตัว สามารถ
แก้ปัญหาในจุดนี้ได้ เนื่องจากการเรียนการสอนแบบตัวต่อตัว เมื่อไม่เข้าใจ จะสามารถสอบถามได้ทันที
ทำให้เข้าใจในบทเรียนได้อย่างดี
การเรียนที่จะประสบความสำเร็จได้นักเรียนต้องมีความเข้าใจในบทเรียนอย่างถ่องแท้ ซึ่งการสอบถาม
ในจุดที่ตนเองสงสัยในทันที จนเข้าใจนั้น ทำให้สามารถเรียนในเรื่องต่อๆไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จึงอาจกล่าวได้ว่าการเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวเป็นการพัฒนาผู้เรียนโดยคุณภาพอย่างแท้จริง อีกทั้งยัง
สามารถได้สอบถามเกี่ยวกับการเรียนจากติวเตอร์ ที่มีประสบการณ์โดยตรง


สำหรับคำถามข้อแรกของผมคือจะหาหนังสือภาษาอังกฤษเล่มไหนดีเพื่อการพัฒนาภาษาอังกฤษในส่วนตัวผมขอให้เพื่อนๆเลือกหนังสือแนวที่ตัวเองถนัดอยู่แล้วในภาษาไทยนะครับ อย่างเช่น ผมชอบการทำสมาธิ ชอบอ่านหนังสือธรรมะ ผมก็หาหนังสือธรรมะมาอ่าน(เป็นภาษาอังกฤษ) ซึ่งหนังสือที่ผมอ่านตอนนี้ก็เป็นหนังสือชื่อว่า
On Meditation 
Instructions from talks by Ajahn Chah
โดย หลวงพ่อชา
ซึ่งเรียบเรียงและแปลจากคำสอนเกี่ยวกับเรื่องสมาธิที่หลวงพ่อชาแสดงไว้หลายครั้ง 

มี 5 บทคือ
1.Meditation  
2.Reciting ‘‘Buddho’’  
3.Developing one-pointedness of mind (samadhi)  
4.Using tranquillity and wisdom  
5.Contemplation of the Body 
 

 ตัวบางตอนครับ


"Meditation
Sitting meditation and making the mind peaceful, you don’t
have to think about too much. Right now, just focus on the
mind, and nothing else. Don’t let the mind shoot off to the left
or to the right, to the front or behind, above or below. Our only
duty right now is to practice mindfulness of the breathing. But
first, fix your attention at the head and move it down through
the body to the tips of the feet, and then back up to the crown
of the head. Pass your awareness down through the body,
observing with wisdom. We do this to gain an initial
understanding of the way the body is right now. Then begin
the meditation, noting that at this time your sole duty is to
observe the inhalations and exhalations. Don’t force the breath
to be any longer or shorter than normal, just allow it to
continue easily. Don’t put any pressure on the breath, rather let
it flow evenly, letting go with each in–breath and out–breath."

 

สำหรับใครสนใจหนังสือเล่มนี้ทิ้งเมลไว้แล้วผมจะ ส่งไปให้นะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

Blog Archive

ป้ายกำกับ

การทําข้อสอบreading (1) เก่งภาษาอังกฤษในเวลาสั้นๆ (1) เกมภาษาอังกฤษสำหรับอนุบาล (1) ข้อสอบพวก TOEFL (2) ข้อสอบภาษาอังกฤษ (1) ครูพี่แนน (2) คล้องจอง (1) เคล็ดลับการทำข้อสอบreading (2) จำคำศัพท์ (17) เดาศัพท์ภาษาอังกฤษ (9) ติวภาษาอังกฤษตัวต่อตัว (14) ติวศัพท์ (20) ท่องศัพท์ (14) เทคนิคการสอนคำศัพท์ (6) เทคนิคใช้that (1) แนะนำหนังสือภาษาอังกฤษ (6) บทสนทนา (2) บทสนาทนาภาษาอังกฤษ (4) ฟังภาษาอังกฤษ (3) ภาษาอังกฤษ (21) ภาษาอังกฤษกับกฎหมาย (1) ภาษาอังกฤษทางบัญชี (1) รวบรวม25กฎของอาจารย์บุญชัย (1) เร่งสปีด (1) เรียนภาษาอังกฤษ (28) เรียนภาษาอังกฤษราคาถูก (8) สอนศัพท์ (11) หลักการใช้ that (1) อาจารย์สมศรี (1) อ่านภาษาอังกฤษ (1) AX 22 (1) cd เรียนภาษาอังกฤษ (1) CDเรียนภาษาอังกฤษ (1) closing sections (1) Cloze Test (1) conversation (1) dictionary (1) fast-english (1) General knowledge (1) GMAT (1) inferior (1) Language in Daily Life (1) main idea (2) parts of speech (1) prefix and suffix (1) reading comprehension (2) reading skill (2) TOEFL (1) TOPIC NOUN (1) vocabulary (2) vocabulary game (2) word formation (2)
 
Copyright © 2011 เรียนภาษาอังกฤษ | High CTR Blogspot Themes designed by Ali Munandar | Powered by Blogger.Com.
My Zimbio
Top Stories