เรื่องการใช้ prefix and suffix สำคัญมากสำหรับงานแปล เพราะเราสามารถเดาศัพท์ได้ และเป็นการทุ่นแรงไปในตัว
โดยที่อาจจะไม่ต้องเปิดพจนานุกรม
ปกติแล้วคำในภาษาอังกฤษแต่ละคำจะต้องประกอบด้วย
รากศัพท์ (root word) หนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งคำ
และอาจมีคำที่ใส่เข้าข้างหน้าคำเรียกว่า วิภัติ (prefix) หรือคำที่ใส่เข้าท้ายคำเรียกว่า
ปัจจัย (suffix) ผสมรวมอยู่ด้วยก็ได้ การวิเคราะห์โครงสร้างของคำนี้เป็นวิธีหนึ่ง
ที่จะช่วยในเรื่องการเดาความหมายของคำศัพท์ ในกรณีข้อความที่อ่านไม่มีตัวชี้แนะหรือคำเชื่อมใด
ๆ หรือปริบทซึ่งได้แก่เนื้อความรอบ ๆ ไม่เอื้อให้เดาคำศัพท์ได้ การหาความหมาย จากส่วนประกอบของคำจะช่วยให้ทราบความหมายได้โดยง่าย
root word จะเป็นคำที่มีความหมายสมบูรณ์ในตัวเอง
อยู่ตามลำพังได้ แต่ prefix และ suffix จะไม่มีความหมายสมบูรณ์ในตัวเอง
อยู่ตามลำพังไม่ได้ต้องนำมาประกอบคำศัพท์ (root word)
prefix เป็นคำที่เติมข้างหน้าคำศัพท์
(root word) และทำให้ความหมายของคำศัพท์เปลี่ยนไป เช่น kind
= ใจดี เติม prefix – un ซึ่งมีความหมายทางปฏิเสธแปลว่าไม่ ทำให้คำศัพท์เดิมมีความหมายเพิ่มในทางที่ปฏิเสธ
unkind = ใจร้าย
suffix เป็นคำที่เติมหลังคำศัพท์
(root word)และทำให้ประเภทของคำศัพท์(part of speech)
เปลี่ยนไป เช่น kind เป็น adjective เมื่อเติมsuffix - ness เข้าข้างท้ายเป็นคำว่า
kindness จะกลายเป็น noun ส่วนความหมายยังคงเดิม
ตัวอย่างการวิเคราะห์โครงสร้างของคำ
friend - root word 1 ตัว
pen-friend - root word (pen) + root word (friend)
ซึ่งลักษณะเช่นนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นคำผสม(compound)
friendly - root word (friend) + suffix (-ly)
unfriendly - prefix (un-) + root word (friend) + suffix (-ly)
friendliness - root word (friend) + suffix (-ly) + suffix (-ness)
friend - root word 1 ตัว
pen-friend - root word (pen) + root word (friend)
ซึ่งลักษณะเช่นนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นคำผสม(compound)
friendly - root word (friend) + suffix (-ly)
unfriendly - prefix (un-) + root word (friend) + suffix (-ly)
friendliness - root word (friend) + suffix (-ly) + suffix (-ness)
จะเห็นว่า root
word เป็นตัวที่มีความหมายสมบูรณ์ในตัว อยู่ตามลำพังได้ แต่ prefix
และ suffix ไม่มีความสมบูรณ์ในตัว
และต้องประกอบกัน root word เท่านั้น จะอยู่ลอย ๆ ตามลำพังไม่ได้
ความแตกต่างระหว่าง prefix และ suffix ก็คือ
prefix เป็นคำที่เติมเข้าข้างหน้า และทำให้ความหมายของ root
word เปลี่ยนแปลงไป เช่น kind แปล่า ในดี
เมื่อเติม prefix "un" เป็น unkind ความหมาย จะกลายเป็นปฏิเสธ หมายถึง ใจร้าย ส่วน suffix เป็นคำที่เติมเข้าข้างท้ายและจะทำให้ประเภทของคำ (part of speech) เปลี่ยนไป เช่น kind (adjective) เมื่อเติม -ness
เข้าข้างท้ายเป็น kindness
จะกลายเป็น noun ส่วนความหมายก็ยังคงเดิม
จะกลายเป็น noun ส่วนความหมายก็ยังคงเดิม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น